เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี
เครื่องชงกาแฟ
กาแฟยอดนิยมสำหรับคอกาแฟ
ในแต่ละวันมีคนดื่มกาแฟเป็นล้าน ๆ แก้ว บางคนดื่มวันละหลาย ๆ รอบด้วยซ้ำไป เสน่ห์ของกาแฟ นอกจากจะเป็นเรื่องกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แล้ว ก็ยังได้รสชาติที่ติดลิ้นพร้อมกับกระตุ้นให้เกิดความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า คอกาแฟจึงไม่เคยพลาดที่จะดื่มเลยสักวัน จริง ๆ ในโลกนี้มีกาแฟอยู่หลายสูตร แต่มีแค่ไม่กี่สูตรเท่านั้นที่ได้รับความนิยม ลองมาดูกันว่ามีสูตรไหนบ้าง
Espresso
กาแฟสายเข้มถึงใจ ว่าง่าย ๆ มันคือกาแฟล้วน ๆ ไม่ใส่ส่วนผสมของนม จึงได้กลิ่นเม็ดกาแฟชัดเจน และนี่ก็ยังเป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟสูตรอื่น ๆ ด้วย
Cappuccino
ประกอบไปด้วย Espresso และนมในอัตราส่วนที่เท่า ๆ กัน จากนั้นปิดทับด้านบนสุดด้วยฟองนมอีกที ว่ากันว่าต้นตำรับมาจากอิตาลี ให้ความละมุนและเข้มข้น
Mocha
จะมีส่วนของนมมากกว่าส่วนของกาแฟ 1 เท่าตัว รสชาติจึงนุ่มนวล หอมมัน ส่วนมากนิยมบีบวิปปิ้งครีมกับช็อคโกแลตไว้ด้านบนสุด
Americano
ดูไปก็คล้าย Espresso แต่ไม่เหมือน เพราะตัวนี้ต้องผสมน้ำร้อนเพิ่มอีก 1 ส่วน เพื่อเจือจาง Espresso บางคนก็เรียกว่ากาแฟดำ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบนม แต่ก็ไม่อยากได้รสชาติที่เข้มจนเกินไป
แนะนำ 10 เครื่องชงกาแฟ ยี่ห้อไหนดี
1. เครื่องชงกาแฟ Otto รุ่น CM-025A
เครื่องชงกาแฟดีไซน์สวย ทันสมัย ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง จึงแข็งแรงทนทาน ตัวเครื่องมีเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อดึงเอากลิ่นและรสชาติของกาแฟออกมาให้ได้มากที่สุด ตัวกาน้ำสามารถแยกออกจากฐานได้ ความจุอยู่ที่ 0.6 ลิตร ใช้กำลังไฟ 550 วัตต์ เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบตัดไฟอัตโนมัติ ทันทีที่เปิดเครื่องน้ำจะร้อนได้เร็ว ประหยัดทั้งพลังงานและเวลา ช่วยให้การดื่มกาแฟในทุกเช้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย
- วิธีการใช้งานไม่ยุ่งยากอะไร และใช้พื้นที่เก็บค่อนข้างน้อย
ข้อด้อย
- ชงกาแฟได้ครั้งละ 5 แก้วเท่านั้น
2. เครื่องชงกาแฟ SKG รุ่น SK-1205
เครื่องชงกาแฟขนาด 1.8 ลิตร ใช้กำลังไฟ 850 วัตต์ เหมาะสำหรับเมล็ดกาแฟคั่วบด และกาแฟแบบ POD มีระบบตีฟองนมได้ในเครื่อง วัสดุทุกชิ้นในตัวเครื่องผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง และพลาสติกเนื้อหนา ทนความร้อนได้ดี แข็งแรงทนทาน การใช้งานค่อนข้างง่าย เพียงแค่กดปุ่มโปรแกรมอัตโนมัติแล้วรอเวลา เครื่องจะมีไฟแจ้งสถานการณ์ทำงานตลอดเวลา ทั้งถาดรองกาแฟ แท้งก์น้ำ และอุปกรณ์ปลีกย่อยอื่น ๆ สามารถถอดล้างได้ง่าย
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- สามารถสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้หลายประเภทในเครื่องเดียว
- มีคู่มือการใช้งานที่เป็นภาษาไทย
ข้อด้อย
- ต้องเก็บใบเสร็จเอาไว้สำหรับการรับประกัน
3. เครื่องชงกาแฟ HOMU
เครื่องชงกาแฟมีมาพร้อมดีไซน์สวยหรูและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่มีปัญหาจุกจิก ความจุของปริมาณน้ำอยู่ที่ 400 มิลลิลิตร มีโหมดตีฟองนมในตัวและมีพื้นที่สำหรับวางอุ่นแก้วด้วย ใช้กำลังไฟ 870 วัตต์ ทุกชิ้นส่วนสามารถถอดล้างได้ง่าย ขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย เพียงแค่เติมน้ำ ตักกาแฟนำเข้าช่องที่กำหนด แล้วก็เลือกโปรแกรมการชงกาแฟที่ต้องการ ไม่นานก็ได้กาแฟหอมกรุ่นมาลิ้มลอง
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ทันทีภายในช่วงเวลา 14 วัน
- มีอุปกรณ์มาให้ครบถ้วน พร้อมใช้งานได้ทันที
ข้อด้อย
- กาน้ำเป็นแก้ว มีโอกาสที่จะแตกเสียหายได้
4. เครื่องชงกาแฟ Krups Nescafe Dolce Gusto
เครื่องชงกาแฟชนิดแคปซูล ใช้กำลังไฟ 1500 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ น้ำหนักตัวเครื่องเพียงแค่ 2.55 กิโลกรัม ใช้พื้นที่ในการจัดเก็บไม่มากนัก มีระบบควบคุมปริมาณน้ำอัตโนมัติ สามารถปรับระดับน้ำตามประเภทเครื่องดื่มที่ต้องการได้มากถึง 7 ระดับ ทำเครื่องดื่มได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น ปุ่มเปิด-ปิดทำงานรวดเร็วภายใน 5 นาที ช่วยประหยัดพลังงานได้ค่อนข้างมาก ส่วนของถาดรองน้ำหยดสามารถปรับขนาดตามแก้วได้
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- แท้งก์น้ำมีความจุมากถึง 0.8 ลิตร ถอดออกมาล้างได้สะดวกด้วย
- ใช้งานง่ายแม้คนที่ไม่เคยชงกาแฟมาก่อน
ข้อด้อย
- รสชาติกาแฟมีให้เลือก 12 รสชาติเท่านั้น
5. เครื่องชงกาแฟ KRUPS รุ่น XP3410
เครื่องชงกาแฟอัตโนมัติขนาด 1.1 ลิตร ใช้กำลังไฟฟ้า 1460 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ โดดเด่นที่ระบบทำความร้อนประสิทธิภาพสูงมาก ได้จนลิขสิทธิ์ในส่วนนี้เอาไว้ด้วย ระบบ thermoblock จะช่วยให้ได้กาแฟร้อนพอดีตั้งแต่แก้วแรก มี Tamping System ที่ช่วยอัดกาแฟให้แน่น เวลาชงกาแฟก็จะได้รสชาติที่ยอดเยี่ยม หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลาต่อเนื่องนานกว่า 5 นาที ตัวเครื่องจะปิดโดยอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้มาพร้อมดีไซน์สวยงามน่าใช้
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- มีระบบจดจำปริมาณกาแฟ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น
- มีพื้นที่สำหรับอุ่นถ้วยกาแฟด้วย
ข้อด้อย
- ราคาค่อนข้างสูง
6. เครื่องชงกาแฟ Delonghi - รุ่น ECO-310.B
เครื่องชงกาแฟสีสันสดใส มีค่าความจุ 1.4 ลิตร ใช้กำลังไฟ 1050 วัตต์ แรงดันน้ำ5 บาร์ มีคุณสมบัติในการชงกาแฟเอสเปรสโซมากเป็นพิเศษ สามารถตีฟองนมได้ มีพื้นที่สำหรับอุ่นแก้ว หลังจากเปิดเครื่องไม่นานก็สามารถชงกาแฟได้ทันที และได้อุณหภูมิที่เหมาะสมตั้งแต่แก้วแรก ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุคุณภาพดี มีน้ำหนักไม่มากเท่าไร เพียงแค่ 4.1 กิโลกรัม ใช้ได้ทั้งกาแฟแบบผงและแบบ POD
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- ดีไซน์สวยงามสดใส
- มีฟังก์ชันการใช้งานครบถ้วน
ข้อด้อย
- บางเฉดสีหาซื้อค่อนข้างยาก
7. เครื่องชงกาแฟ Electrolux รุ่น ECM1303W
เครื่องชงกาแฟที่มีเหยือกชงปริมาณประมาณ 15 แก้ว ใช้กำลังไฟ 730-870 วัตต์ มีปุ่มเปิด-ปิดของเครื่อง พร้อมไฟแสดงสถานการณ์ทำงานตลอดเวลา มีช่องสำหรับเติมน้ำด้านบนและมีแถบสำหรับดูระดับน้ำด้านข้าง มีแผ่นอุ่นเหยือกกาแฟที่เคลือบสารห้องกันการติดภาชนะ มีระบบวาล์วป้องกันน้ำหยด จึงไม่มีปัญหาสกปรกเลอะเทอะระหว่างการใช้งาน ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด มีช่องเก็บสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อย
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- มีการรับประกันยาวนานถึง 2 ปี
- ราคาไม่แพง ใช้งานได้ง่าย
ข้อด้อย
- อาจเกิดปัญหาอุดตันของทางเดินน้ำได้ง่าย
8. เครื่องชงกาแฟ ฟิลิปส์ รุ่น HD7457/20
เครื่องชงกาแฟแบบ Drip Filter ขนาดของตัวเครื่องค่อนข้างเล็ก จึงไม่สิ้นเปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บมากนัก มีเทคโนโลยีตรวจจับระดับน้ำ ซึ่งจะแสดงน้ำในหม้อต้มอย่างชัดเจน เหมาะกับการกะปริมาณน้ำให้เหมาะกับจำนวนคน มีระบบป้องกันน้ำหยดระหว่างการใช้งาน โถกาแฟมีความจุดอยู่ที่ 1.2 ลิตร หากเติมน้ำเต็มสามารถชงกาแฟได้ประมาณ 10-15 แก้ว ตัวเครื่องผลิตจากสแตนเลสและพลาสติกคุณภาพสูง
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- ควบคุมการทำงานง่ายมาก ด้วยปุ่ม ๆ เดียว
- ราคาไม่แพงมากนัก และหาซื้อได้ง่าย
ข้อด้อย
- ไม่มีฟังก์ชันทำงานให้เลือกมากนัก
9. เครื่องชงกาแฟ BUONO BUO-266751
เครื่องชงกาแฟที่มีขนาดความจุของแท้งค์น้ำ 1.5 ลิตร ใช้กำลังไฟ 1350 วัตต์ สามารถชงกาแฟได้ 2 แก้วพร้อมกัน มีฟังก์ชันตีฟองนมในเครื่อง มีอุปกรณ์สำหรับการชงกาแฟแบบคาปูชิโน่แถมมาให้อย่างครบถ้วน ด้านบนเป็นพื้นที่สำหรับอุ่นแก้วกาแฟ ตัวเครื่องผลิตจากสแตนเลสอย่างดี จึงแข็งแรงทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- สามารถสร้างสรรค์กาแฟได้หลายแบบทั้งร้อนและเย็น
- ใช้งานได้ง่ายเพียงแค่ปุ่มเดียว
ข้อด้อย
- ราคาค่อนข้างสูง
10. เครื่องชงกาแฟ Gaggia Synchrony Logic
เครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ เหมาะกับร้านกาแฟโดยเฉพาะ ใช้ระบบควบคุมการทำงานแบบอนาล็อก ไม่ต้องตั้งค่าอะไรให้ยุ่งยาก สามารถปรับปริมาณน้ำที่ใช้ในการชงกาแฟได้ตามความต้องการ ความจุของแท้งค์น้ำอยู่ที่ 1.7 ลิตร ใช้กำลังไฟ 1250 วัตต์ แรงดัน 15 บาร์ ด้านบนเป็นช่องเก็บเมล็ดกาแฟและพื้นที่สำหรับอุ่นแก้วกาแฟ มีฟังก์ชันในการตีฟองนม อุ่นกาแฟ และฟังก์ชันอื่น ๆ สำหรับการชงกาแฟครบถ้วนแบบมืออาชีพ
รีวิวจากผู้ใช้จริง


ข้อดี
- มีฟังก์ชันการทำงานหลากหลายและครบถ้วนจริง ๆ
- ใช้งานได้ง่าย ไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ
ข้อด้อย
- ราคาค่อนข้างสูง และต้องหาซื้อจากแหล่งขายเฉพาะที่
การจิบกาแฟที่ดีไม่ใช่การเร่งรีบดื่มให้หมดแก้ว แล้วไปทำอย่างอื่น แต่จะต้องได้ครบทั้งกลิ่น รส และสัมผัส หลายคนจึงติดใจบรรยากาศตามร้านกาแฟ ที่เขาพยายามผลักดันสิ่งที่คอกาแฟต้องการออกมาอย่างเต็มที่ เรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักกาแฟเลยทีเดียว แต่ถ้าเราไปนั่งชิลด์ติดร้านไม่ได้ทุกครั้ง การซื้อเครื่องชงกาแฟติดบ้านไว้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เลือกชงกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นได้ตามใจ พร้อมอิ่มอร่อยได้ทุกเวลา